น้ำยาแอร์ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อแอร์
น้ำยาแอร์ หรือ สารทำความเย็น คือ สารประกอบที่มักพบได้ทั้งในสถานะของเหลวหรือก๊าซ โดยทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากสิ่งแวดล้อม(ห้องที่ต้องการปรับอุณหภูมิ)เพื่อให้เกิดการขยายตัว หรือมีการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวให้กลายเป็นไอหรือก๊าซ และสารดังกล่าวเมื่อกลายเป็นไอก๊าซแล้ว จะสามารถคืนตัวเปลี่ยนสถานะกลายเป็นของเหลวได้อีก สารเหล่านี้ใช้ในกระบวนการทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น และตู้แช่แข็ง เนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะของสารทำความเย็นจึงสามารถนำพาความร้อนออกไปจากพื้นที่และแทนที่ด้วยอุณหภูมิที่เย็นกว่าได้
น้ำยาแอร์บ้าน มี 3ชนิดหลักๆดังนี้
- น้ำยาแอร์ R-22
- น้ำยาแอร์ R-32
- น้ำยาแอร์ R-410A
น้ำยาแอร์ R-22
คือ สารทำความเย็นสังเคราะห์รุ่นเก่าที่สุด โดยสามารถใช้กับตู้เย็นภายในครัวเรือนและระบบปรับอากาศ R-22
มี คุณสมบัติไม่เป็นพิษ ไม่กัดกร่อน ไม่ติดไฟ และมีจุดเดือดเท่ากับ 5 องศาเซลเซียส ที่ความดันบรรยากาศ โดยระบบปรับอากาศ R-22 นั้นมักจะมีน้ำหรือความชื้นผสมอยู่ด้วย จึงจำเป็นต้องใช้ Filter Drier เพื่อขจัดน้ำออกจากสารทำความเย็น สำหรับการเติมน้ำยาแอร์จะอยู่ที่ 60-80 PSI ขณะแอร์ทำงาน
น้ำยาแอร์ R-32
คือ สารทำความเย็นเใหม่ที่ผลิตขึ้นเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเพื่อลดการปล่อยสาร CFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ตามนโยบายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้สาร R-22 แบบขั้นบันไดจนกระทั่งเป็นศูนย์ในปี 2573 ซึ่งสารทำความเย็น R-32
ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยกว่าสารทำความเย็น R-410A ถึง 3 เท่า และประสิทธิภาพการทำความเย็นมากกว่า R-22 ถึง 60%
น้ำยาแอร์ R-410A
คือ ส่วนผสมของ Difluoromethane (R-32) และ Pentafluoro-ethane (R-125) มีส่วนผสมของ Haloalkane ซึ่งเป็นตัวการที่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
โดย R-125 จะมีฤทธิ์ในการทำลายชั้นโอโซนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ถึง 1725 เท่าเลยทีเดียว
สำหรับการเติมน้ำยาแอร์จะอยู่ที่ 130-140 PSI ขณะแอร์ทำงาน มี คุณสมบัติไม่ติดไฟ
ข้อควรระวัง เวลาเติมน้ำยาไม่สามารถเติมเพิ่มได้ทันที ก่อนเติมต้องทำการถ่ายน้ำยาเก่าออกให้หมดก่อนทุกครั้งแล้วทำสุญญากาศระบบใหม่ จากนั้นจึงเติมน้ำยาแอร์ได้
วิธีการเติมน้ำยาแอร์
R-22 และ R-32 เป็นน้ำยาเชิงเดี่ยวสามารถเติมได้เลยวิธีการเติมให้หงายถังน้ำยาขึ้นเติมเป็นสถานะก๊าซได้ตามปกติ แต่สำหรับน้ำยาแอร์ R410A ต้องทำการคว่ำถังและชั่งน้ำหนักเติมเท่านั้นเนื่องจากน้ำยาแอร์ R410Aเป็นน้ำยาเชิงผสมระหว่าง R32 และ R125 หากเติมเป็นสถานะก๊าซแล้วจะไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำยาที่เข้าไปได้ถังน้ำยาแอร์
ถังน้ำยาแอร์
ถังน้ำยาแอร์ภายในจะมีน้ำยาในสถานะก๊าซอยู่ด้านบนและของเหลวอยู่ด้านล่างสำหรับถังที่ขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีอยู่2แบบคือ
1.แบบใช้แล้วทิ้ง
2.แบบเติมกลับมาใช้ใหม่
สำหรับตัวถังแบบนำกลับมาใช้ใหม่นั้นเวลาเติมน้ำยาแอร์เข้าถังไม่ควรเติมเกิน 80% ของปริมาตรถังที่รับได้ เพราะหากเก็บถังไว้ในที่ที่มีความร้อนสูงก๊าซในถังในจะขยายตัวหากเติมน้ำยาแอร์เต็มถังจะทำให้ถังน้ำยาได้รับความเสียหายได้หากความร้อนที่ถังสูง ดังนั้นแม้จะเป็นถังน้ำยาแบบนำกลับมาใช้ใหม่ก็ไม่ควรเติมน้ำยาเกิน 80%
ข้อควรระวัง : ห้ามนำถังน้ำยาไปเติมน้ำยาคนละชนิดกันเพราะอาจจะทำให้ถังน้ำยาแอร์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากน้ำยาแอร์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติทางความดันแตกต่างกัน