การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟได้ในระยะยาวแล้ว ยังเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่คำถามสำคัญคือ ติดโซลาร์เซลล์คุ้มค่าจริงหรือไม่? และ ต้องเตรียมตัวอย่างไรหากต้องการติดตั้ง?

ในวันนี้เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยทำให้หลายคนได้เข้าใจถึงข้อดี ข้อเสียของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ วิธีการคำนวณความคุ้มค่า และแนวทางสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นใช้งานโซลาร์เซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถตัดสนใจได้ว่าการลงทุนนี้เหมาะกับบ้านของคุณหรือไม่

โซลาร์เซลล์ทำงานอย่างไร?

แผงโซลาร์เซลล์ทำงานโดยการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Photovoltaic Effect โดยเมื่อแสงแดดตกกระทบกับแผงโซลาร์ เซลล์แสงอาทิตย์จะสร้างกระแสไฟฟ้ากระแสตรง จากนั้นอินเวอร์เตอร์จะทำหน้าที่แปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน

ระบบโซลาร์เซลล์มีกี่แบบ

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านมีหลายประเภท คุณสามารถเลือกติดตั้งประเภทที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน โดยแบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้าและการใช้พลังงานสำรอง ซึ่งแต่ละประเภทนั้นต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกประเภทของระบบโซลาร์เซลล์จึงควรพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ ด้านเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากการลงทุน

  1. ระบบ On-Grid คือการเชื่อมต่อแผงโซลาร์เซลล์กับสายไฟฟ้าภายนอก ซึ่งช่วยให้เราสามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ร่วมกับพลังงานจากการไฟฟ้า ระบบนี้สามารถขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าได้ผ่านระบบ Net Metering ทำให้ผู้ใช้สามารถลดค่าไฟในระยะยาวได้โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เก็บพลังงานข้อดีคือค่าใช้จ่ายในการติดตั้งต่ำและไม่ต้องเก็บพลังงานสำรอง
  2. ระบบ Off-Grid ตอบโจทย์สำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าได้  โดยจะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์และเก็บพลังงานในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในช่วงกลางคืนหรือเมื่อไม่มีแสงแดด ข้อดีคือสามารถใช้ไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้ในช่วงไฟฟ้าดับหรือกลางคืน แต่ข้อเสียคือการลงทุนสูงในส่วนของแบตเตอรี่และค่าติดตั้งที่มากกว่า
  3. ระบบ Hybrid เป็นการผสมผสานระหว่าง On-Grid และ Off-Grid โดยผู้ใช้จะสามารถใช้พลังงานจากทั้งแผงโซลาร์เซลล์และการไฟฟ้าพร้อมกัน ในขณะเดียวกันยังสามารถเก็บพลังงานในแบตเตอรี่สำหรับใช้ในช่วงเวลากลางคืนหรือเมื่อไฟฟ้าดับ ระบบนี้ได้รับความนิยมในประเทศไทยเนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะกับบ้านที่ต้องการสำรองพลังงาน ข้อดีคือสามารถใช้ไฟฟ้าได้ตลอดเวลาและมีการเก็บพลังงานสำรองในแบตเตอรี่ แต่ข้อเสียคือมีต้นทุนการติดตั้งที่สูงกว่าระบบอื่น ๆ

ติดโซลาร์เซลล์คุ้มจริงไหม?

การตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านเป็นการลงทุนระยะยาวที่สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ‘ติดโซลาร์เซลล์คุ้มค่าจริงไหม?’ การคำนวณความคุ้มค่าของการติดตั้งโซลาร์เซลล์มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ดังนี้

ต้นทุนการติดตั้ง

ราคาการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ต่อ 1 กิโลวัตต์ (kW) ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์เสริมอย่างอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ หากคุณติดตั้งระบบขนาด 5 kW ค่าติดตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 – 250,000 บาท

การประหยัดค่าไฟ

การประหยัดค่าไฟขึ้นอยู่กับขนาดของระบบที่ติดตั้งและปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้าน หากบ้านใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 500 – 1,000 บาทต่อเดือน การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มีขนาดประมาณ 5 kW อาจช่วยลดค่าไฟได้ถึง 50-70% โดยเฉลี่ย คำนวณจากการใช้พลังงานที่ได้จากแสงแดดในระหว่างวันและการใช้ไฟจากการไฟฟ้าในช่วงกลางคืน

ระยะเวลาคืนทุน

ระยะเวลาคืนทุนสำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปี ซึ่งหมายความว่าในช่วง 5-7 ปีหลังจากติดตั้ง ระบบจะช่วยประหยัดค่าไฟได้เท่ากับต้นทุนเริ่มต้นที่ลงทุนไป หลังจากนั้นจะเริ่มสร้างผลกำไรจากการประหยัดค่าไฟในกรณีที่ติดตั้งแบบ On-Grid

ข้อดีของการติดโซลาร์เซลล์

หลายคนคงพอจะทราบข้อดีของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านในประเทศไทยอยู่บ้างแล้ว ว่ามีข้อดีหลายประการที่สามารถช่วยให้เจ้าของบ้านได้ประโยชน์ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด วันนี้เราจะมาแจกแจงให้เห็นข้อดีด้านอื่นกันชัด ๆ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ

  1. ประหยัดค่าไฟฟ้า การติดโซลาร์เซลล์ช่วยให้บ้านสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้จากแสงแดดโดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่แสงแดดแรง ทำให้ลดค่าไฟในระยะยาวได้ถึง 50 – 70% ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบโซลาร์เซลล์และปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้าน
  2. คืนทุนเร็ว ในประเทศไทยระบบโซลาร์เซลล์มักจะคืนทุนภายใน 5 – 7 ปี หลังจากนั้นเจ้าของบ้านจะเริ่มประหยัดค่าไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังสามารถสร้างผลกำไรได้จากการขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าในกรณีที่ติดตั้งระบบ On-Grid
  3. คุ้มค่าในระยะยาว แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะค่อนข้างสูงในตอนแรก แต่การประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวจะทำให้การลงทุนนี้คุ้มค่ามากขึ้น เพราะระบบโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานยาวนาน 20-25 ปี
  4. ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยการติดตั้งโซลาร์เซลล์สามารถเข้าร่วมโครงการ Net Metering ซึ่งช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับการไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนในด้านเงินทุนและภาษีอีกด้วย
  5. เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน บ้านที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อบ้านในอนาคตอาจมองว่าเป็นการลงทุนในพลังงานสะอาดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
  6. มีแหล่งพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน โซลาร์เซลล์เป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่สร้างมลพิษหรือก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นการลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล

ข้อควรพิจารณาของการติดตั้งโซลาร์เซลล์

ได้ทราบถึงข้อดีของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ไปแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อเสียที่มือใหม่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีความแตกต่างในเรื่องของสภาพแวดล้อม

  1. ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง โดยเฉพาะสำหรับระบบที่มีขนาดใหญ่หรือการติดตั้งระบบที่มีแบตเตอรี่เก็บพลังงาน ซึ่งอาจต้องใช้เงินลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท อาจไม่ตอบโจทย์ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
  2. จำเป็นต้องมีติดตั้งเพียงพอ บ้านที่มีขนาดเล็กหรือในกรณีที่บ้านมีการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้ หรือ อาคารสูง ซึ่งอาจจำกัดประสิทธิภาพในการรับแสงแดด
  3. ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับอากาศ ระบบโซลาร์เซลล์ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มที่ในทุกสภาพอากาศ โซลาร์เซลล์จะทำงานได้ดีเมื่อมีแสงแดดส่องถึง ซึ่งในประเทศไทยแสงแดดค่อนข้างจัด แต่ในบางพื้นที่ที่มีฝนตกมากหรืออากาศมีเมฆมากประสิทธิภาพของระบบอาจลดลง
  4. การบำรุงรักษา โซลาร์เซลล์ต้องการการบำรุงรักษาเป็นระยะ เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งระบบอาจต้องการการตรวจเช็คหรือซ่อมแซมซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  5. ความซับซ้อนในการติดตั้ง การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ขนาดของระบบที่เหมาะสม ทิศทางและมุมของแผงโซลาร์เซลล์ รวมถึงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ การออกแบบและติดตั้งที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ระบบไม่ได้ผลเต็มที่ และยังต้องการผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง

สรุป

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าในระยะยาวและให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด แม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงและต้องการพื้นที่ติดตั้งที่เหมาะสม แต่ประโยชน์ที่ได้รับในระยะยาวนั้นมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในบ้านที่ใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวัน การลงทุนในโซลาร์เซลล์สามารถช่วยลดค่าไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ และคืนทุนในระยะเวลาเพียง 5 – 7 ปี

หากคุณกำลังมองหาวิธีที่สามารถช่วยให้บ้านของคุณมีความยั่งยืนและประหยัดค่าไฟฟ้า การติดตั้งโซลาร์เซลล์คือทางเลือกที่เหมาะสม นอกจากนี้ ถ้าคุณต้องการเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับโซลาร์เซลล์อย่างละเอียด เพื่อการติดตั้งที่มีประสิทธิภาพและการดูแลรักษาที่ถูกต้อง เราขอแนะนำ หลักสูตรโซลาร์เซลล์ ที่ TNS Training Center ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะในด้านนี้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง การบำรุงรักษา หรือการออกแบบระบบโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ด้วยความรู้จากหลักสูตรของ TNS คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและนำโซลาร์เซลล์มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ พร้อมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานในอนาคต